วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555


10 อันดับ สถานที่สยองรอบโลก
 
ทีมงาน toptenthailand ขอเสนอ "10 อันดับ สถานที่สยองรอบโลก" จะมีสถานที่ไหนในโลกที่แล้วน่ากลัวกันบ้าง? ลองติดตามอ่านได้เลยครับ...
1ทุ่งสังหาร” (KILLING FIELD) ประเทศกัมพูชา
ในที่สุดก็มาถึงอันดับที่ 1 ของสถานที่สยองรอบโลกอย่าง ทุ่งสังหาร” (KILLING FIELD) สถานที่กองกำลังเขมรแดงในอดีตใช้ประหารนักโทษทางการเมือง โดยมีวิธีการฆ่าก็เป็นไปอย่างหฤโหด คือ จับนักโทษเอามือไพล่หลัง ให้นั่งคุกเข่าแล้วผู้คุมจะใช้ไม้ตีต้นคอ ไม่ว่าจะเป็นเสียม จอบ หรือไม้ตีเบสบอลเอามาใช้ฆ่าคนได้ทั้งสิ้น เป็นการประหยัด เพราะถ้าใช้ลูกปืนยิงจะแพงกว่าเอาไม้ตี และใกล้ๆกับทุ่งกว้างนั้นยังมีต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น ลักษณะคล้ายต้นก้ามปูบ้านเรา ต้นหนึ่งไว้ใช้ติดเครื่องขยายเสียง หรือลำโพงเอาไว้ถ่ายทอดเสียงนักโทษที่ชอบร้องครวญครางก่อนจะถูกฆ่า เพื่อให้ได้ยินโดยทั่วกัน จะได้ไม่กล้ากรีดร้องกันมากนัก เพราะการร้องจะทำให้เพิ่มความน่ากลัวกันไปใหญ่ ส่วนต้นก้ามปูอีกต้นหนึ่ง เรียกว่า ต้นไม้สังหาร จะใช้กับเด็กๆ ไม่ว่าเด็กเล็กหรือเด็กโต ผู้คุมจะจับสองเท้ารวบเข้าหากันแล้วจับฟาดเปรี้ยงกับต้นไม้ เด็กเล็กๆ จะเสียชีวิตทันที แล้วจากนั้นก็โยนลงหลุม บางหลุมถูกฆ่ายกครอบครัวพ่อแม่ลูก บางหลุมขุดขึ้นมาแล้วไม่พบหัวเลยก็มี เป็นผีหัวขาด เหลือแต่โครงกระดูก นักโทษเหล่านี้อาจจะเป็นปัญญาชนหรือนักโทษที่หัวรุนแรง ไม่ก็พวกที่มีแนวคิดต้องต้านเขมรแดง เลยตัดหัวเสียบประจานเสียก่อนจะส่งตัวมายังทุ่งสังหาร ทีมงาน toptenthailand ขอยกให้เป็นสถานที่สยดสยองเสียจริงๆ “ทุ่งสังหาร” ไม่มีที่ไหนในโลกจะเสมอเหมือนกับการเข่นฆ่ามนุษย์ชาติที่ทารุณเช่นนี้..
 
 
 
2อัลคาแทรซ, ซานฟรานซิสโก (Alcatraz) ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 2 นี่คือคุกที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกา อัลคาแทรซ (Alcatraz) สถานที่คุมขัง อัลคาโปน เจ้าพ่อชื่อดัง และภายในคุกสยอง วังเวงจริงๆ และได้ฉายาว่าเดอะร็อกเป็นคุกที่ไม่มีใครแหกสำเร็จ ถึงแม้จะมีนักโทษพยายามใช้ของชิ้นเล็กๆ ตัดซี่กรงเหล็กและแอบว่ายน้ำหนีออกไป แต่ก็ไม่ปรากฏว่าเขามีชีวิตรอดไปได้ นักโทษหลายคนตายในห้องขังที่นี่ ส่วนหนึ่งตายเพราะบาดแผลติดเชื้อ และนี่เองเป็นที่มาของเสียงประหลาดมากมาย เช่น เสียงตัดเหล็ก เสียงปิดประตูห้องขัง เสียงหวีดร้องจากใต้ดิน และความรู้สึกถูกจ้องมอง ปัจจุบันคุกนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว แถมเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถค้างคืนได้ด้วยนะจะบอกให้ ว่าแต่จะแฟนๆชาว toptenthailand คนใดกล้าไปค้างบ้าง?
 
 
 
3ปราสาทของวลาด ดารคู ทรานซิลวาเนีย ประเทศโรมาเนีย
อันดับที่ 3 ปราสาทที่เป็นแหล่งที่มาของนิยายผีดูดเลือด แดรกคิวล่า ที่ว่าน่ากลัวคือเจ้าชายจอมเสียบ วลาด ดารคูลา ผู้เป็นเจ้าของปราสาท แกชอบเอาจับเอาเหล่าเชลยมาเสียบด้วยไม้แหลมจากก้น จนทะลุขึ้นไปซีกบน แล้วก็เอามานั่งเรียงรายกันไปในบริเวณกว้างๆ เช่นกำแพงเมือง หรือ สนามหญ้าใหญ่ๆ วันไหนครึ้มอกครึ้มใจ เขาก็จะนั่งดินเนอร์ดูการประหารด้วยวิธีนี้เสียตรงนั้นเลย...................อืมอร่อย ส่วนปราสาท ปัจจุบันยังอยู่ครับ แต่...........มันทำไมอยู่สูงจัง แต่แฟนๆชาว toptenthailand ที่จะไปเที่ยวไม่ต้องกังวล เค้าได้สร้างบันไดให้คนขึ้นไปดูความงามปนสยองกันได้สะดวกแล้ว..
 
 
 
4คุก และหอคอยลอนดอน (Tower of London) ประเทศอังกฤษ
อันดับที่ 4 หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประเทศอังกฤษ สถานที่เกิดเหตุแห่งประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ยาวนานกว่า 900 ปี นองเลือด ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เคยเป็นป้อมปราการ, ปราสาทราชวัง, คุก แดนประหาร เป็นสถานที่ตัดหัวของแอนน์ โบลีน พระสนมในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่ทุกวันนี้วันดีคืนดียังมีคนเห็นแอนน์ โบลีนถือหัวและร้องครวญอย่างทรมาน ไม่รวมกับอีกหลายวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานอยู่ในหอคอยแห่งนี้ซึ่งมักจะส่งเสียงร้องขอชีวิต หรือเสียงลากโซ่ตรวนให้ผู้คนได้ยินและปรากฎให้เห็นเป็นระยะๆ จึงทำให้ที่นี่ยังคงโด่งดังเรื่องความหลอนตลอดกาล ปัจจุบันหอคอยลอนดอนเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารและหอคอยหลายหลัง ที่เก็บเครื่องมือทรมานและเครื่องมือประหารนักโทษแบบโหดๆ ของยุคกลาง และมีอีกาดำด้วย ดูแล้วก็น่ากลัวจริงๆแหละ
 
 
 
5ปอมเปอี (Pompei) ประเทศอิตาลี
อันดับที่ 5 ปอมเปอีเมืองเก่าสมัยกลาง ตั้งอยู่บริเวณภาคใต้ของคาบสมุทรอิตาลี ริมอ่าวเนเปิล เมืองนี้เป็นชุมชนขึ้นมาก่อนคริสต์ศักราช โดยอยู่ใต้อิทธิพลของกรีก ต่อมาราว 80 ปีก่อนคริสตกาลกลายเป็นเมืองตากอากาศฤดูร้อนของชาวโรมันหลังตกเป็นอาณานิคมของอาณาจักรโรมัน กระทั่ง ถูกภูเขาไฟระเบิดถล่มทั้งเมือง ตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สยองขวัญมาก เค้าหล่อรูปคนตายในท่าที่ถูกลาวาทับไว้ ก็เลยเป็นสถานที่แสดงท่าหนีตายของชาวเมืองไปเพราะวปอมเปเอียนและสัตว์เลี้ยงแข็งเป็นหินคงสภาพเกือบทุกประการ รวมถึงความหวาดกลัวต่อความตายที่ยังตราติดอยู่บนดวงหน้า บางซากนั่งเอามือปิดหน้า บางซากซบอยู่กับกำแพง ปอมเปอีจึงได้อีกชื่อว่า "ซากเมืองแห่งความตาย" ปัจจุบันเมืองโบราณปอมเปอีได้รับการฟื้นฟู องค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1997
 
 
 
6โรงงานนรก “ค่ายเอาชวิตซ์” (Auschwitz) ประเทศโปแลนด์
อันดับที่ 6 สยองที่สุด ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กับ “ค่ายเอาชวิตซ์” (Auschwitz)ที่ใกล้เมืองเอาชวิตซิน โดยค่ายนี้สร้างขึ้นเพื่อสังหารชาวยิวด้วย การรมแก๊สพิษและเผาในเตาเผา โดยมีเหยื่อที่โดนถึง 1 ล้านสองแสนคน จากที่ต่างๆ ทั่วยุโรป จํานวน 22 ล้านคน ไปที่ค่าย โดยขนไปทางรถยนต์ รถไฟ และเรือเดินสมุทร และปัจจุบันสภาพยังเหมือนเดิมทุกประการไม่ว่าเตารมแก๊ส เตาเผา ค่ายพัก คุก มีกลิ่นแห่งความตายติดมาด้วย พร้อมกับความวังเวง เมื่อท่านไปก็อาจเจอผีชาวยิวที่ไม่ไปเกิดอีก เรียกว่าได้สองเด้งกันเลย ปัจจุบันเอาชวิตซ์เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีนักท่องเที่ยวสนใจมากที่สุด แห่งหนึ่งของ โปแลนด์ ซึ่งพยายามรักษาสภาพ เอาชวิตซ์ให้ใกล้เคียง สภาพเดิมให้มากที่สุด
 
 
 
7หมู่เกาะปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea) รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี
อันดับที่ 7 ปาปัวนิวกินีเป็นเกาะอยู่ทางเหนือ ของทวีปออสเตรเลีย ประกอบด้วยชนเผ่าต่างๆมากกว่า 700 เผ่า แต่ละเผ่าต่างคนต่างอยู่ การเดินทางไปมาหาสู่กันลำบากมาก เพราะพื้นที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน และใครอยากเห็นมนุษย์กินคนก็ต้องเข้าไปลึกหน่อยนะ โชคดีอาจไปทันตอนคืนพิธีเฉลิมฉลองชัยชนะ และกินซุปเนื้อมนุษย์ วิธีปรุงอาหารรายการนี้ง่ายมาก นำน้ำใส่หม้อดินขนาดใหญ่ต้มให้เดือด บั่นศพมนุษย์ที่ตายทั้งสองฝ่ายให้มีขนาดที่จะใส่ในหม้อนั้นได้ใส่ลงในหม้อ นำผักชนิดต่างๆ รวมทั้งมันและเผือกใส่รวมลงไปด้วย ต้มจนสุกและเปื่อยดีแล้วก็ตักออกมากินกัน ส่วนคนที่ยังไม่ตายก็มัดไว้ก่อนและค่อยๆ ฆ่าให้ตาย นำมาปรุงเป็นอาหาร กินเลี้ยงกันในคืนต่อๆ มารองเท้าหนัง ถุงเท้า ตลอดจน เสื้อผ้าก็ถูกนำมาต้มจนเปื่อย และกินจนหมดสิ้นเช่นเดียวกัน สำหรับหัวกะโหลกเก็บไว้ เป็นเครื่องประดับตามบ้านเรือนสวยงามมาก แฟนๆชาว toptenthailand คนใดจะไปเที่ยวปาปัวนิวกีนีไม่ต้องเสียวอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันนี้ไม่มีใครในเกาะกินเนื้อคนอีกต่อไปแล้ว เพราะกฎหมายออกมาว่าห้ามกินเนื้อคนไม่ว่าศัตรูหรือนักท่องเที่ยว..
 
 
 
8เทือกเขาร็อกกี้ โคโลราโด (Colorado Rockies) ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 8 สถานที่สยองครั้งนี้คือเทือกเขาร็อกกี้ นี้เกิดคดีฆาตกรรมขึ้น เป็นเรื่องของมนุษย์กินคน ที่ไม่ใช่คนป่า ปี 1874 ในฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด คณะนักสำรวจหกคนได้ขุดอุโมงค์ในหุบเขาโคโลราโด ต่อมาอุโมงค์เกิดถล่ม การสื่อสารถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และต่อมา ฤดูใบไม้ผลิมีเพียงคนเดียวที่มีชีวิตรอดกลับมาจากหุบเขาโคโลราโด อยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี เขาคนนี้มีนามว่าอัลเฟร์ด แพคเกอร์ และเมื่อเขาออกมาก็ถูกจับเนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากินเพื่อนของเขาสองคนเพื่อมีชีวิตรอดเพราะอาหารหมดและเพื่อนก็ตายไปทีละคนทีละคน เขาเลยอดใจไม่ไหวกินเป็นอาหารเสียเลย แฟนๆชาว toptenthailand คนไหนอยากรู้ว่ามนุษย์กินคนเป็นอย่างไร ลองมาเที่ยวเทือกเขาร็อกกี้ ก็พร้อมต้อนรับท่านไปเป็นมนุษย์กินคนอย่างยิ่งด้วยความหนาว และความตาย
 
 
 
9อุโมงค์ที่ฝรั่งเศส กรุงปารีส (Pont de L’Alma) ประเทศฝรั่งเศส
อันดับที่ 9 สถานที่เจ้าหญิงไดอาน่าประสบอุบัติเหตุอุบัติเหตุรถคว่ำ สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2540 และยังคงเป็นปริศนาค้างคาใจคนทั้งโลกว่าอุบัติเหตุหรือ ถูกฆาตกรรม เพราะในคืนที่เกิดโศกนาฏกรรม มีการเปลี่ยนเส้นทางรถยนต์ไปยังอุโมงค์ Pont de L’Alma อย่างไม่มีเหตุผล ทั้งๆ ที่จุดหมายเดิม คือการเดินทางไปยังอพาร์ตเมนต์ของฝ่ายชาย และทำไมวิทยุสื่อสารของตำรวจในกรุงปารีส ไม่สามารถใช้การได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่รถยนต์พระที่นั่งของเจ้าหญิงเดินทางเข้าสู่อุโมงค์ จนเกิดเหตุร้ายและไม่สามารถติดต่อสื่อสารเพื่อขอรับการช่วยเหลือเพื่อรักษาพระชนม์ชีพของพระองค์ได้อย่างทันท่วงที เป็นความบังเอิญจริงหรือ? มีแฟนๆชาว toptenthailand คนใดไปเที่ยวที่อุโมงค์ฝรั่งเศสแล้ว ช่วยมาเล่าบรรยากาศให้ฟังกันบ้างนะ
 
 
 
10สุสานมัมมี่ ปานาโม ประเทศอิตาลี (LAS CATACUMBAS DE LOS CAPUCCINOS)
มาเริ่มต้นความสยองน่ากลัวที่อันดับ 10 กับสุสานมัมมี่ เมืองปานาโม ประเทศอิตาลี เป็นสุสานใต้ดินเก่าแก่ตั้งอยู่ในใต้อารามนักบวชคาปูชิน แห่งโบสถ์ฟรานซิสกัน ของคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิก ที่เมืองปาร์เลอโม (PARLEMO) เกาะซิซิลี ที่นี้มีซากมัมมี่กองเต็มไปหมด จะเป็นชุมชนแออัดอยู่แล้ว ถึงขนาดที่บางศพที่มาทีหลัง ไม่มีที่ให้ยืนสบายๆ ต้องถูกแขวนไว้กับตะขอ บนผนังโน่น และถ้าเดินเข้าไปก็จะเจอแต่ศพนั่ง.....นอน...... ยืน...... และเดิน เอ๊ย เดินไม่มี บางตัวละยังคงสวมเครื่องแต่งกายเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตด้วย มีมัมมี่เด็กด้วยนะ เป็นผู้หญิงอายุ 8 ขวบชื่อโรซาเลีย ลอมบาร์โด (ROSALIA LOMBARDO) ที่ดองไว้70 - 80 ปีแล้วด้วย หน้าตายังน่ารักเหมือนคนนอนหลับเลย ในปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่นี้เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว(จะมีคนไปเหรอ) มีจำกัดเวลาเข้าชมด้วยครับ ไม่รู้ว่าแฟนๆชาว toptenthailand คนไหนบ้างที่จะเข้าไปดู..
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น