วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555


10 อันดับข่าวเด่น ToptenThailand ประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2555
 
ทีมงาน toptenthailand ขอเสนอ "10 อันดับข่าวเด่น ToptenThailand ประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2555 "
1กรมชลประทาน ปรับแผนระบายน้ำเขื่อน รับมือน้ำเหนือ
วานนี้ (11 มิถุนายน) ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่า ได้มีฝนตกชุกกระจายหลายพื้นที่ ทั้งทางภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำท่าตามธรรมชาติมีปริมาณสูงขึ้น และมีแนวโน้มว่า จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยาได้ระบุว่า ในช่วงวันที่ 10-14 มิถุนายนนี้ จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นอีก ร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และจะมีฝนตกหนังบางแห่ง พร้อมทั้งให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงนี้ เนื่องจากเกรงว่า จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำเหนือใหม่ ด้วยการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา โดบควบคุมปริมาณน้ำเหนือให้ระบายลงสู่ทางตอนล่างอย่างเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำทางด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำที่สูงขึ้น แต่จะไม่ล้นตลิ่งแน่นอน พร้อมกันนี้ ยังได้แจ้งไปยัง จ.ชัยนาท, จ.สิงห์บุรี, จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ประชาชนรับทราบกับสถานการณ์ในขณะนี้แล้ว พร้อมกันนี้ ด้านกรมชลประทาน ยังระบุอีกว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกจำนวนมาก ซึ่งทางกรมชลประทานได้ให้ทุกโครงการในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามสถานการณ์น้ำ และเตรียมพร้อมรับมืออย่างใกล้ชิด ขณะที่ นายพฤทธิพงศ์ ทัศน์อัญชุลีกุล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า หลังจากที่ปีแล้ว ที่ชาวปทุมธานี ต้องประสบปัญหาภัยธรรมชาติ น้ำท่วมใหญ่ยาวนานถึง 2 เดือน ทำให้ชาวปทุมฯ ได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ทั้งนี้ ทางรัฐบาลรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันบูรณาการช่วยกันป้องกันน้ำท่วม โดยเฉพาะประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ที่เป็นประตูน้ำที่มีความสำคัญในการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ นายพฤทธิพงศ์ กล่าวว่า จากเดิมมีเครื่องสูบน้ำอยู่ 2 สถานี เครื่องหนึ่งสูบน้ำได้ 3 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งมี 12 เครื่อง สูบได้ 34 ลบ.ม.ต่อวินาที ทั้งนี้ ได้เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด จากที่สูบได้ 3 ลบ.ม.ต่อเครื่อง เป็น 6 ลบ.ม.ต่อวินาที จำนวน 12 เครื่อง และสามารถสูบได้ 74 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือเป็น 2 เท่า ซึ่งเพิ่มเครื่องระบายน้ำชั้น 2 เพิ่มขึ้นไปอีก เท่ากับสามารถสูบได้ 108 ลบ.ม.ต่อวินาที อย่างไรก็ตาม นายพฤทธิพงศ์ ได้คำนวนจากปริมาณน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมาว่า ในปีนี้จะสามารถระบายน้ำได้ทันอย่างแน่นอน เนื่องจากเราได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำอีก 12 เครื่อง และเชื่อว่า จากสถิติน้ำที่มีอยู่ ทางกรมชลฯ จะสามารถควบคุมน้ำในปีนี้ได้ และมั่นใจว่า บ้านเรือนประชาชนและนิคมอุตสาหกรรม นวนคร และบางกะดี สามารถรอดพ้นจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมในปีนี้ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ สถานีประตูน้ำจุฬาลงกรณ์แห่งนี้ ได้ทำลายสถิติของสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิกลายเป็นสถานีสูบน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากสามารถสูบน้ำเกินกว่า 100 ลบ.ม.ต่อวินาที
 
 
 
2ยิ่งลักษณ์ มั่นใจ น้ำท่วมอยุธยาปีนี้ไม่หนัก
วานนี้ (11 มิถุนายน) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้า โครงการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ต้นน้ำ จ.ปทุมธานี และ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ในปีนี้ตนเชื่อว่าพระนครศรีอยุธยาสภาพน้ำน่าจะดีขึ้น เนื่องจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมช.คมนาคม ได้อธิบายไว้ว่า มีการยกระดับแนวเขื่อนส่วนนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งได้ทำเขื่อนกั้นไว้ถึง 2 ชั้น ซึ่งยังไม่รวมถึงในส่วนของการขุดลอกคลองต่าง ๆ และพัฒนาพื้นที่แก้มลิงธรรมชาติ ที่จะสามารถรองรับน้ำได้ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าสถานการณ์ต่าง ๆ น่าจะดีขึ้น เพราะเรามีสิ่งก่อนสร้างให้คนอยุธยาเห็นเป็นรูปธรรม นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีการยกแนวถนน ซึ่งตอนนี้เรารู้แล้วว่า พื้นที่ไหนบ้างที่น้ำจะท่วม จึงได้ยกระดับถนนและนิคมต่าง ๆ มีสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้เห็นความแข็งแรง อาทิ คลองข้าวเม่าที่ตอนนี้ได้มีการซ่อมแซมแล้ว ซึ่งจะให้ชาวพระนครศรีอยุธยาได้เห็นชัดเป็นรูปธรรม อีกทั้งเราจะไปไล่ที่ต้นน้ำ และกลางน้ำ เพื่อชะลอน้ำไม่ให้ไหลทะลักลงมา ส่วนทางด้านคมนาคมก็ได้ยกระดับแนวถนนให้สูงกว่าระดับปีที่ผ่านมา ท้ายนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า สำหรับแผนเตือนภัย ขณะนี้ได้มีการซ้อมระดับหมู่บ้าน แต่ต่อไปก็จะซ้อมในระดับนิคมฯ แยกเป็นรายนิคมฯ อีกครั้ง ซึ่งตนมั่นใจว่าน่าจะรับมือได้ แต่ประชาชนอาจจะยังไม่มั่นใจ รัฐบาลก็ต้องคอยทำความเข้าใจกันประชาชน
 
 
 
3เทพไท จวก พานทองแท้ โพสต์เฟซบุ๊กไร้สาระ
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2555 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ ถึงกรณีที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กโจมตี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป. เป็นประจำ ว่า หลายคนในพรรคไม่อยากตอบโต้ เพราะเห็นว่าไร้สาระ แต่ตนจำเป็นต้องชี้แจงข้อกล่าวหาต่าง ๆ โดยตั้งข้อสังเกต 2 ประการ คือ 1.นายพานทองแท้โพสต์ข้อความเอง หรือมีคนคอยโพสต์ให้ 2.นายพานทองแท้โพสต์ในฐานะอะไร นายเทพไท ยังกล่าวอีกว่า หากนายพานทองแท้อยากเล่นการเมือง ก็ควรขออนุญาตจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีคนายกรัฐมนตรี เพื่อลงมาเล่นการเมืองแทนคุณอา คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพริตตี้ ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ขอโทษกรณีที่ ส.ส.ปชป.ก่อเรื่องในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว และ ส.ส.คนนั้นได้ขอโทษไปแล้ว นอกจากนี้ นายเทพไท ยังถามว่า อย่างกรณีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงจับได้ว่า นายพานทองแท้ ลอกข้อสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยมาขอโทษแทนนายพานทองแท้ หรือไม่ ส่วนเรื่องที่บอกว่า นายอภิสิทธิ์เลียนเสียง จ.ส.ต.ประสิทธิ ไชยศรีษะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องน่าขำนั้น แล้วที พ.ต.ท.ทักษิณ พูดจาคล้ายคนเมาพร้อมร้องเพลง Let it Be หรือช่างแม่งมัน เป็นเรื่องน่าขำด้วยหรือไม่ นายเทพไท ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ขอเรียกร้องให้คนที่อยู่เบื้องหลังการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของนายพานทองแท้ออกมาแสดงตัว หรือหากนายพานทองแท้โพสต์เอง ก็ให้ออกมายืนยันว่าโพสต์ข้อความเอง เพื่อแสดงความรับผิดชอบหากการโพสต์ดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหาย
 
 
 
4ผู้ว่าฯ สุโขทัย ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม 2 อำเภอ
วานนี้ (11 มิถุนายน) นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ประกาศภัยพิบัติอุทกภัย 2 อำเภอ คือ อ.เมืองสุโขทัย ได้รับผลกระทบ 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน และ อ.กงไกรลาศ 6 ตำบล 36 หมู่บ้าน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่ลดลงของ อ.ลอง และ อ.วังชิ้น จ.แพร่ ส่งผลให้แม่น้ำยมล้นตลิ่ง และกัดเซาะพนังกั้นน้ำหลายจุด ตั้งแต่พนังกั้นน้ำ ต.ปากแคว น้ำเริ่มเข้าท่วมถนนจรดวิถีถ่อง ทางหลวงหมายเลข 101 ท่วมถนนสูง 30 เซนติเมตร ระยะทาง 500 เมตร และได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือ หมู่ 5 บ้านวังโพธิ์ ต.ยางซ้าย และ หมู่ 2 บ้านลัดทรายมูล ต.ลัดทรายมูล ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ต้องเร่งอพยพชาวบ้าน กว่า 20 ครอบครัว เกือบ 100 คนขึ้นมาพักอาศัยชั่วคราวที่เต็นท์ที่ทางจังหวัดจัดไว้ เนื่องจากพนังดินกั้นน้ำที่ถูกกัดเซาะมาตั้งแต่ปีที่แล้ว อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถรับน้ำได้น้ำที่เอ่อล้น จึงไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว และระบายลงพื้นที่ทางการเกษตรอย่างต่อเนื่องเป็นวงกว้าง
 
 
 
5ตำรวจคุมซาเล้งสาดน้ำกรดฝากขัง ค้านประกัน
จากกรณี นายราชัน ธีรกิจนุกุล อายุ 50 ปี หนุ่มขี่ซาเล้ง ก่อเหตุฉีดน้ำกรดใส่ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ พหลโยธิน สุทธิสาร และบางซื่อ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมตัวได้ขณะขี่รถซาเล้งอยู่ในซอย อินทามระ 39 ย่านถนนสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา ล่าสุด พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัวนายราชัน ขออนุญาตศาลฝากขังเป็นผลัดแรก ตั้งแต่วันที่ 12 - 23 มิถุนายน 2555 ที่ ศาลอาญารัชดา เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดและทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจจากแพทย์อีกครั้ง ทั้งนี้ พ.ต.อ.วิบูลยุทธ ได้ให้พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ค้านประกัน เนื่องจากผู้ต้องหาก่อเหตุในหลายพื้นที่และเกรงว่าจะหลบหนีและไปทำร้ายผู้อื่นอีก
 
 
 
6สลด! อาม่าถูกรถเมล์สาย 75 ทับศีรษะดับอนาถ
วานนี้ (11 มิถุนายน) พ.ต.ท.ทวีป สุทธิ พงส. (สบ 3) สน.ยานนาวา รับแจ้งเหตุรถประจำทางทับคนเสียชีวิต ตรงป้ายรถเมล์ปากซอยเจริญกรุง 69 แขวงยานนาวา เขตสาทร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมมูลนิธิร่วมกตัญญู ในที่เกิดเหตุพบรถประจำทางสาย 75 สีครีมแดง วิ่งระหว่างวัดพุทธบูชา-หัวลำโพง ทะเบียน 12-0001 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 5-40150 จอดอยู่ริมถนน ล้อหลังด้านซ้ายใกล้ประตูทางขึ้นลงพบศพ นางสาวสุวรรณี จงไพศาล อายุ 78 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ศีรษะถูกล้อรถบดทับ ภายในย่ามผู้ตายพบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารหลายแห่งรวม 11 เล่ม บัญชีรายการหุ้น และเงินสด 1 หมื่นบาท จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถาม นายพิบูลย์ นันทวิศาล อายุ 41 ปี พนักงานขับรถเมล์คันดังกล่าว เล่าว่า ตนวิ่งรถรับผู้โดยสารมาเต็มคันออกจากอู่วัดพุทธบูชากำลังมุ่งหน้าไปหัวลำโพง ก่อนเกิดเหตุฝนตกลงมาอย่างหนัก เมื่อตนได้ยินเสียงชาวบ้านหวีดร้องจึงรีบหยุดรถ และลงไปตรวจสอบ แต่พบผู้ตายถูกรถทับเสียชีวิตไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะกำลังขึ้นรถ แต่เพราะฝนตกพื้นเปียกเลยทำให้ลื่นจนร่างไถลลงไปอยู่ใต้ท้องรถก่อนถูกรถทับจนเสียชีวิต จากนั้นจึงควบคุมตัวคนขับรถเมล์ไปสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
 
 
7พบแหล่งน้ำบาดาล รักษาโรคเบาหวาน-ช่วยชายฟิตปั๋ง
วานนี้ (11 มิถุนายน) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้กล่าวในงาน "การประกวดสารคดีสั้นภายใต้แนวคิด คนรุ่นใหม่ หัวใจรักษ์น้ำบาดาล" โดย นายศักดา นพสิทธิ์ และโฆษก ทส. กล่าวว่า น้ำบาดาลเป็นทรัพยากรที่มีค่าอยู่ทั่วประเทศ มีสถานที่เก็บของมันเองอยู่แล้วตามธรรมชาติ อีกทั้งเป็นตัวแก้ปัญหายามประสบภัยแล้งได้อย่างดี โดยธรรมชาติแล้ว ประเทศไทยมีน้ำบาดาลมากกว่าน้ำผิวดินถึง 24 เท่า และพบว่า 90% ของพื้นที่ในประเทศไทยมีน้ำบาดาลอยู่ แต่คุณสมบัติของน้ำบาดาลในแต่ละที่จะแตกต่างกัน ซึ่งขณะนี้ทาง ทส. ได้มีนโยบายที่จะขุดบ่อบาดาลเพื่อบริการประชาชนหมู่บ้านละ 1 บ่อ เพื่อแก้ปัญหาน้ำดื่มขาดแคลนในช่วงฤดูแล้ง ทางด้าน นายสัมฤทธ์ ชุษณะทัศน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้พบเจอแหล่งน้ำบาดาล ซึ่งมีแร่ธาตุสำคัญอย่าง วานาเดียม (vanadium) ที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติแล้วว่า สามารถใช้รักษาบรรเทาอาการโรคเบาหวานได้ รวมทั้งมีแร่ธาตุ ซีลีเนียม (selenium) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ให้ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และเพิ่มความปึ๋งปั๋งให้กับผู้ชาย ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าแร่ธาตุดังกล่าว จะพบเจอทุกบ่อน้ำบาดาล แต่จะมีแค่ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะที่ที่มีหินภูเขาไฟ นอกจากนี้ นายสัมฤทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า ในประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีบริษัทเอกชนที่ผลิตน้ำแร่ออกมาขายมากมาย โดยมีโฆษณาอย่างชัดเจนว่า เป็นน้ำแร่ที่มีธาตุวานาเดียมและซีลีเนียม บำบัดอาการเบาหวาน และช่วยให้เกิดความกระปรี้กระเปร่าในผู้ชาย แต่ทั้งนี้ ในประเทศไทยไม่สามารถโฆษณาระบุสรรพคุณดังกล่าวได้ เพราะขัดกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างไรก็ตาม ทาง ทส. จะต้องวางแผนการทำงานอย่างรัดกุม เพื่อให้ความรู้เรื่องน้ำแร่แก่ประชาชนชาวไทย ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า น้ำแร่ดังกล่าว มีที่บ่อน้ำบาดาลใดบ้าง นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถบอกได้จริง ๆ ว่าอยู่ที่ใด เนื่องจากเกรงว่า เมื่อบอกไปแล้วประชาชนละแวกนั้นอาจจะแตกตื่น อีกทั้งน้ำแร่ในบ่อบาดาลแต่ละที่ ก็มีความเข้มข้นที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อันดับแรก ทาง ทส. จะให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องประโยชน์ของน้ำบาดาลก่อน รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า สำหรับน้ำบาดาลที่มีน้ำแร่ 2 ชนิดนี้อยู่ สามารถดื่มกินได้ทันทีเมื่อสูบขึ้นมา เพราะถึงแม้ว่าเป็นน้ำดิบ แต่ก็ผ่านขั้นตอนการกรองในธรรมชาติจากชั้นดิน ชั้นหิน มาแล้ว
 
 
 
82 พี่น้องมือชกฝรั่งที่พัทยาเข้ามอบตัว ยันไม่ได้เริ่มก่อน
2 พี่น้องมือชกฝรั่งที่พัทยาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ให้การปฏิเสธไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน และไม่ได้ช็อตไฟฟ้า ขอโทษทำพัทยาเสียชื่อ วอนสังคมให้ความยุติธรรม จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปฉาวของเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของชายชาวต่างชาติรายหนึ่งซึ่งมีอาการมึนเมา เกิดมีปากเสียงกับชายไทย ก่อนถูกรุมทำร้ายและช็อตไฟฟ้าจนได้รับบาดเจ็บที่เมืองพัทยานั้น ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (11 มิถุนายน) พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 พร้อม พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จ.ชลบุรี, พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ พ.ต.ท.ประพจน์ โชติคุณ ผกก.2 บก.ทท. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคนร้าย 2 ราย ทราบชื่อคือ นายอุดร โม้ลี อายุ 42 ปี และนายคำแสง โม้ลี อายุ 32 ปี สองพี่น้องอาชีพช่างแอร์ ซึ่งเป็นผู้ลงมือชกต่อยชายชาวต่างชาติจนได้รับบาดเจ็บในคลิปดังกล่าว โดยทั้งสองคนให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชาวต่างชาติไม่ทราบสัญชาติมีอาการเมาสุราอย่างหนัก อาละวาดและทำลายทรัพย์สิน ส่งเสียงดังด่าทอประชาชนบริเวณดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนแถวนั้นเป็นอย่างมาก ต่อมาชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้เดินมาทุบรถของนายคำแสง ซึ่งนายคำแสงได้ออกมาห้ามปรามชายต่างชาติและให้สงบสติอารมณ์ แต่ชายคนดังกล่าวได้ชกต่อยนายคำแสงก่อน นายอุดรจึงเข้าช่วยเหลือน้องชาย จนมีการโต้เถียงทะเลาะและชกต่อยกัน ทั้งนี้ นายคำแสง โม้ลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้เริ่มก่อน และขอโทษชาวพัทยาและชาวไทยทุกคนเป็นอย่างมาก แต่ก็อยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมแก่ตนด้วยเช่นกัน ส่วนที่มีข่าวว่ามีการใช้เครื่องช็อตไฟฟ้านั้นไม่เป็นความจริง แล้วก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตาม ทางด้าน พล.ต.ท.ปัญญา ระบุว่า สำหรับคดีนี้คงต้องหาชาวต่างชาติผู้เสียหายมาให้ปากคำและตกลงทางคดีว่าจะเป็นไปในทิศทางใด แต่ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ กับคนไทยทั้ง 2 คน
 
 
 
9แตกตื่น! แสงประหลาดโผล่ท้องฟ้า 3 ประเทศ
วันนี้ (12 มิถุนายน) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ประชาชนนับพันคนในประเทศอิสราเอล ตุรกี และจอร์แดน ถึงกับแตกตื่น หลังพบแสงประหลาดปรากฏอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุด หลายฝ่ายกำลังเร่งตรวจสอบ สันนิษฐานกันว่า อาจเป็นเทคโนโลยี ฝีมือมนุษย์ รายงานระบุว่า ตำรวจในอิสราเอล ตุรกี จอร์แดน เช่นเดียวกับ ไซปรัส และเลบานอน ต้องคอยรับโทรศัทพ์จากชาวบ้านผู้ตื่นตระหนกแทบไม่หวาดไม่ไหว หลังแสงประหลาดสีขาว ม้วนวนเป็นเกลียวอยู่บนชั้นบรรยากาศ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้อย่างสูงว่า แสงลึกลับนี้จะเป็นเทคโนโลยีบนโลก เนื่องจากเคยมีกรณีพบเห็นแสงปริศนาแบบนี้มาแล้ว เมื่อครั้งที่รัสเซีย ดำเนินการทดสอบขีปนาวุธ ในปี 2009 และคราวนั้นมันก่อความแตกตื่นแก่ผู้คนในนอร์เวย์เป็นอย่างมาก
 
 
 
10ชาวเน็ตวิจารณ์ภาพ-คลิปสยอง ฆาตกรหั่นศพแคนาดา
จากคดีฆาตกรรมดังกระฉ่อนโลก กรณีนายลูก้า แม็กน็อตตา ฆ่าหั่นศพนักศึกษาหนุ่มชาวจีนแล้วเผยคลิปการฆาตกรรมสุดสยองเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจแคนาดาและทีมนักสืบได้สืบสวนย้อนไปถึงคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า แม็กน็อตตาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมปริศนา ฆ่าหั่นศพหนุ่มใหญ่เกย์วัย 66 ปี แล้วนำชิ้นส่วนไปทิ้งไว้ใต้ป้าย HOLLYWOOD อีกด้วย แต่ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องนี้แต่อย่างใด ขณะที่คลิปวิดีโอบันทึกภาพการฆาตกรรมสุดโหดของเขายังคงได้รับการค้นหาอย่างต่อเนื่อง และถูกวิจารณ์เละถึงพฤติกรรมอันต่ำทรามสุดโหดของเขา เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์โตรอนโตซันของแคนาดา เปิดเผยว่า ตำรวจเมืองมอนทรีออล และนักสืบในลอสแองเจลิส กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนอย่างละเอียดว่า นายลูก้า แม็กน็อตตา ฆาตกรจากคดีฆ่าหั่นศพนักศึกษาหนุ่มจีนและส่งไปรษณีย์ไปยังสถานที่ราชการในแคนาดานั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมปริศนา ฆ่าหั่นศพนายฮาร์วีย์ เมเดลิน หนุ่มใหญ่วัย 66 ปี แล้วนำชิ้นสวนไปทิ้งไว้ที่ป้าย HOLLYWOOD ในเมืองลอสแองเจลิส เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาหรือไม่ จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานจากข้อมูลของพยานที่เป็นหนุ่มขายบริการชาวอเมริกัน พบว่า ในช่วงต้นปีนี้ แม็กน็อตตาได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นรัฐติดกัน โดยเขาประกอบอาชีพขายบริการให้กับหนุ่มเกย์ที่นั่น และในช่วงเวลานั้นก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีการพบชิ้นส่วนศพนายฮาร์วีย์ เมเดลิน ถูกทิ้งอยู่ใต้ป้าย HOLLYWOOD ขณะที่หลายวันก่อนหน้านั้น ก็พบศพชายคนหนึ่งถูกฆ่าหั่นศพทิ้งอยู่ในรัฐแอริโซนาอีกด้วย อย่างไรก็ดี ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนครลอสแองเจลิสกลับไม่เชื่ออย่างนั้น พวกเขาคิดว่าฆาตกรที่ฆ่านายฮาร์วีย์ และอีกศพในแอริโซนานั้น อาจเป็นคนละคนกับนายแม็กน็อตตาก็ได้ การสืบสวนจึงต้องดำเนินต่อไป ขณะเดียวกัน ประเด็นการฆาตกรรมสุดโหดของแม็กน็อตตา ยังคงเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวเน็ตทั่วโลกขณะนี้ ซึ่งถึงแม้ว่าคลิปวิดีโอบันทึกการฆาตกรรมของเขาจะถูกลบออกไปแล้วในหลาย ๆ เว็บไซต์ แต่ชาวเน็ตก็ยังคงพยายามค้นหาคลิปวิดีโอนี้มาดูกันอยู่ ขณะที่เว็บไซต์บางแห่งก็ได้มีการคัดลอกภาพสุดสยองจากบางฉากในคลิปมาเผยแพร่ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่ประเด็นการฆาตกรรมฆ่าหั่นศพนักศึกษาหนุ่มจีนเท่านั้น แม็กน็อตตายังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความโหดร้ายต่อสัตว์ หลังจากมีการพบว่า เขาคือหนุ่มปริศนาที่ฆ่าลูกแมวด้วยการจับยัดถุงพลาสติกแล้วดูดลมออก รวมทั้งเป็นหนุ่มปริศนาที่จับลูกแมวป้อนงูหลาม ที่เคยตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้อีกด้วย
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น